เปิดตัวในงาน Apple Event “Peek performance” ตามคาด iPhone SE รุ่นที่ 3 กับดีไซน์เดิม มาพร้อมชิป A15 Bionic และรองรับ 5G
iPhone SE รุ่นใหม่ยังคงใช้ดีไซน์ iPhone 8 แบบเดิม ตัวเครื่องใช้อะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศและดีไซน์แบบกระจกด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเป็นกระจกแบบเดียวกับที่ด้านหลังของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 หน้าจอ 4.7 นิ้ว มาพร้อมปุ่มโฮมและ Touch ID ใต้หน้าจอแสดงผล มีความสามารถในการทนน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP67 และยังมาพร้อมกับสีใหม่อย่าง สตาร์ไลท์, มิดไนท์ และยังคงมีสีแดง PRODUCT(RED) ให้เลือก
ภายในถูกอัปเกรดมาใช้ชิป A15 Bionic ชิปรุ่นล่าสุดที่ใช้งานใน iPhone 13 Series ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานต่างๆ การประมวลผลด้านการถ่ายภาพและวิดีโอ ยังรวมไปถึงการเล่นเกมก็ทำได้ดีมากกว่าเดิมและยังประหยัดพลังงาน รวมถึงการรองรับการเชื่อมต่อ 5G ทำให้เป็น iPhone SE รุ่นแรกที่รองรับ 5G นอกจากนียังใช้งานร่วมกับเครื่องชาร์จที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi สำหรับการชาร์จแบบไร้สาย ทั้งยังรองรับการชาร์จแบบเร็วอีกด้วย
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย iPhone SE รุ่นที่ 3
- iPhone SE จะวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ในสีมิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED ในราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท
- ลูกค้า จะสามารถสั่งซื้อ iPhone SE ล่วงหน้าได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม
- ลูกค้าสามารถซื้อ iPhone SE ในราคา 1,590 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 10 เดือน ก่อนการแลกซื้อที่ apple.com/th/store, ในแอป Apple Store® และที่ร้าน Apple Store7
- นอกจากนี้ iPhone SE ยังวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์บางรายด้วย
- Apple มีบริการหลายประเภทให้แก่ลูกค้าทั้งในร้านและทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือและคำแนะนำเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายจาก Apple Specialists จนถึงบริการจัดส่งและรับสินค้าที่ร้านที่สะดวกสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพราะ Apple ตั้งใจให้ Apple Store apple.com/th/store เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั่นเอง