วันนี้ Apple ได้เปิดตัวภาพยนตร์สั้นถ่ายทำด้วย iPhone 13 Pro เรื่อง ‘ผีตามคน’ สร้างสรรค์โดยภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ผู้กำกับภาพยนตร์สยองขวัญชื่อดังที่เคยฝากผลงานอย่าง ‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ และ ‘แฝด’ ที่ยังคงหลอนอยู่ในใจของผู้ชมจนถึงทุกวันนี้ โดยภาคภูมิได้กลับมาถ่ายทอดการเล่าเรื่องอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาอีกครั้งผ่านเลนส์กล้องของ iPhone 13 Pro ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเพณีจริงและกฎแห่งกรรมที่ตามหลอกหลอน
‘ผีตามคน’ คือผลงานกำกับภาพยนตร์ชิ้นแรกของภาคภูมิ วงศ์ภูมิในรอบสี่ปี ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวของ สองโจรวัยรุ่นหนีตำรวจมาพบกับร้านหน้ากากผีตาโขนผ่านความสามารถในการถ่ายวิดีโอของ iPhone 13 Pro โดยเฉพาะในสถานที่และสภาวะที่มีแสงน้อย ผนวกกับความเชื่อที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานอย่างผีตาโขน ซึ่งมาจากคำว่าผีตามคน และถือว่าเป็นเทศกาลใหญ่ประจำปีของชาวเลย กลายเป็นบทเรียนเกี่ยวกับกฏแห่งกรรม การกระทำ ความรับผิดชอบ และการไม่เพิกเฉยเมื่อมีเหตุการณ์อันเลวร้ายเกิดขึ้น
ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่เคยกำกับผลงานหนังสั้นสยองขวัญในภาพยนตร์รวมเรื่องสยองขวัญอย่าง ‘สี่แพร่ง’ และ ‘ห้าแพร่ง’ ได้ใช้ความสามารถและการประมวลผลของ iPhone 13 Pro ในการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นความยาว 20 นาทีซึ่งภาคภูมิกล่าวว่า “การใช้ iPhone ถ่ายหนังผีคือการทดลองที่ทำให้คนทำหนังหรือเด็กที่อยากทำหนังมีแรงบันดาลใจในการเอากล้องมาลองขยับข้อจำกัดและลองทำดูว่าจะเป็นอย่างไร” ระบบกล้องของ iPhone 13 Pro และโหมดภาพยนตร์ (Cinematic mode) ที่ช่วยปรับโฟกัสระหว่างบุคคลโดยอัตโนมัติได้ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของเมืองเลยซึ่งเป็นศูนย์กลางและจุดกำเนิดของเทศกาลผีตาโขนได้อออกมามีสีสันและคมชัดในทุกรายละเอียด
ภาคภูมิได้ยกให้คุณภาพกล้องของ iPhone 13 Pro เป็นดาวเด่นในการถ่ายทำเมื่อต้องเจอกับฉากและมุมมองที่ท้าทาย ซึ่งมอบผลลัพธ์ออกมาเป็นคุณภาพที่คล้ายคลึงกับภาพยนตร์และช็อตที่ไม่เคยถ่ายได้มาก่อนเมื่อใช้กล้องฟิล์มทั่วไป ระบบกล้องใหม่หมดของ iPhone 13 Pro ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นอย่างรูรับแสง ƒ/1.8 ในกล้องอัลตร้าไวด์ และรูรับแสง ƒ/1.5 บวกกับพิกเซลขนาด 1.9μm ในกล้องไวด์ ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ในโปรเจกต์สยองขวัญเรื่องนี้ด้วยการรับปริมาณแสงที่มากขึ้นถึง 92% และ 2.2 เท่าตามลำดับ ทำให้การถ่ายทำในสภาวะแสงน้อยซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการมอบประสบการณ์สยองขวัญออกมาได้ดีกว่าที่เคยมีมาเมื่อ “iPhone 13 Pro สามารถเก็บภาพในสภาวะแสงน้อยได้ เวลาถ่ายเข้าไปแล้วเราจะเห็นรายละเอียดในความมืด สมมติว่าเราเอาสิ่งที่น่ากลัวหรือผีไปซ่อนอยู่ในความมืด เราก็จะยังเห็นรายละเอียดในคุณภาพที่ดี” ภาคภูมิกล่าว
ภาพยนตร์สั้นเรื่อง ‘ผีตามคน’ พร้อมให้ชมบน YouTube และ apple.com/TH แล้ววันนี้ นอกจากนี้ Apple ยังเปิดตัวชิ้นงานโฆษณาสำหรับโปรเจกต์นี้บนบิลบอร์ดบนตึกสาธร ยูนีค ซึ่งเป็นตึกร้างชื่อดังใจกลางเมืองริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
‘ผีตามคน’ ภาพยนตร์สั้นถ่ายทำด้วย iPhone 13 Pro
เบื้องหลังการถ่ายทำ
เกี่ยวกับ ‘ผีตามคน’
เรื่องย่อ ภาพยนตร์ไทยสยองขวัญที่ถ่ายด้วย iPhone 13 Pro ในสภาวะแสงน้อย ผลงานจาก ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (“ชัตเตอร์”, “แฝด”) พบกับเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเพณีจริงและกฎแห่งกรรมที่ตามหลอกหลอน เมื่อการปล้นเกิดผิดพลาดกลายเป็นคดีสยอง สองโจรวัยรุ่นหนีตำรวจมาพบกับร้านหน้ากากผีตาโขน เพียงเพื่อจะพบว่า แม้จะใส่หน้ากากก็ไม่อาจปกปิดความผิดบาปของตนได้
ผู้กำกับ: ภาคภูมิวงศ์ภูมิ ผู้กำกับและนักเขียนบทผู้ได้ชื่อว่าเป็นตัวจริงในการสร้างภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ผลงานสร้างชื่อ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2547) และแฝด (2550) ได้รับรางวัลและคำชื่นชมในระดับสากล การทำงานที่ผ่านมาของภาคภูมิได้เป็นหมุดหมายสำคัญในการกำหนดแนวทางอันเป็นเอกลักษณ์แก่ภาพยนตร์สยองขวัญไทย ที่ไม่เพียงสั่นประสาทแต่ยังมีความเป็นไทยอยู่เต็มเปี่ยม ด้วยมุมมองด้านภาพที่ไม่เหมือนใครและการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม ภาคภูมิยังคงทำงานเพื่อยกระดับวงการภาพยนตร์สยองขวัญเอเชียให้โดดเด่นและเร่งเสียงหวีดร้องให้ดังไกลไปทั่วโลก
เกี่ยวกับ iPhone 13 Pro ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถระดับใหม่ที่สมาร์ทโฟนไม่เคยทำได้มาก่อน ด้วยเทคโนโลยีอันทรงพลังอย่างชิป A15 Bionic ในโครงสร้างที่ออกแบบใหม่หมดทั้งข้างในและข้างนอก iPhone 13 Pro ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Super Retina XDR รุ่นใหม่พร้อมกับฟีเจอร์ ProMotion ซึ่งมีอัตราการรีเฟรชสูงสุดถึง 120Hz ทำให้ทุกการสัมผัสและการเคลื่อนไหวลื่นไหลและตอบสนองได้ดีกว่าที่เคย ในขณะที่ระบบกล้องแบบโปรเองก็ได้รับการพัฒนาครั้งใหญ่ที่สุดทำให้สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างสวยงาม รวมถึงมีฟีเจอร์ใหม่อย่างโหมดภาพยนตร์ที่ทำให้ได้วิดีโอที่มีมิติความชัดตื้น คุณภาพที่ดีขึ้นในสภาวะแสงน้อย และการก้าวกระโดดในเรื่องแบตเตอรี่และความคงทน
ระบบกล้องที่ดีที่สุดที่เคยมีมา iPhone 13 Pro ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์และเลนส์ใหม่สำหรับกล้องหลังทั้งสามตัว ประกอบกันเป็นระบบกล้องที่ดีที่สุดที่เคยมีมาบน iPhone โดยกล้องเลนส์ไวด์แบบใหม่หมดมีเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นพร้อมกับพิกเซลขนาด 1.9μm ซึ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาใน iPhone ทำให้ได้รายละเอียดที่มากขึ้นในภาพถ่ายและการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในสภาวะแสงน้อย ซึ่งสูงถึง 2.2 เท่าเมื่อเทียบกับ iPhone 12 Pro และกว่า 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับ iPhone 12 Pro Max
กล้องอัลตร้าไวด์มาพร้อมกับรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และระบบออโต้โฟกัสใหม่ ทำให้ได้คุณภาพของการถ่ายทำที่ดีขึ้นถึง 92% ในสภาวะแสงน้อย กลายเป็นภาพที่สว่างขึ้นและคมชัดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro max ยังมีกล้องเทเลโฟโต้ใหม่ที่มีทางยาวโฟกัส 77 มม. ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใกล้สิ่งที่ต้องการจะถ่ายได้มากยิ่งขึ้นในขณะที่อัดวิดีโอและสร้างภาพถ่ายบุคคลที่ให้คุณปรับโบเก้ได้อย่างละเอียด ในขณะที่ Neural Engine ที่เร็วขึ้นใน A15 Bionic, ISP อันล้ำสมัย และความก้าวหน้าในการประมวลผลภาพถ่ายในฟีเจอร์กล้องของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max รวมถึง HDR อัจฉริยะ 4 จะช่วยให้ภาพถ่ายออกมาดูสมจริงยิ่งกว่าที่เคยแม้จะอยู่ในสถาวะที่แสงน้อยก็ตาม
คุณภาพวิดีโอสูงสุดในสมาร์ทโฟน iPhone ยังคงเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในคุณภาพวิดีโอที่สูงที่สุด ด้วยเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นและรูรับแสงที่กว้างขึ้นในกล้องไวด์ ผนวกกับรูรับแสงที่กว้างขึ้นในกล้องอัลตร้าไวด์ วิดีโอบน iPhone 13 Pro จะดียิ่งขึ้นกว่าที่เคย โดยเฉพาะในสภาวะแสงน้อยที่ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นอย่างน่าทึ่ง การลดนอยซ์และการแมปโทนที่เหนือชั้นไปอีกขั้นทำให้วิดีโอจากทุกกล้องมีมิติมากยิ่งขึ้น รวมถึงลดนอยซ์ และเก็บไฮไลท์กับรายละเอียดในทุกระดับแสง การเรนเดอร์ตามความหมายที่วันนี้ใช้งานกับวิดีโอได้แล้วจะทำให้ iPhone สามารถจำแนกแต่ละองค์ประกอบของฉากอย่างผิวหนัง ใบหน้า ท้องฟ้า และพื้นที่ที่มีพื้นผิวสูงอย่างใบหญ้าและปรับให้ออกมาดูสมจริงมากที่สุด นอกจากนี้ iPhone ยังเป็นอุปกรณ์เพียงหนึ่งเดียวที่ให้ผู้ใช้สามารถเก็บภาพ ตัดต่อ ดู และแชร์วิดีโอในรูปแบบ Dolby Vision HDR และ iPhone 13 Pro สามารถถ่ายวิดีโอด้วยรูปแบบ Dolby Vision ที่มีความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีได้อีกด้วย
โหมดภาพยนตร์ โหมดภาพยนตร์บน iPhone จะถ่ายภาพของผู้คน สัตว์เลี้ยง และวัตถุด้วยเอฟเฟกต์ระยะความชัดพร้อมกับการเปลี่ยนโฟกัสแบบอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บภาพในรูปแบบคล้ายคลึงกับภาพยนตร์ได้ถึงแม้จะไม่ได้เป็นตากล้องมืออาชีพก็ตาม นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนโฟกัสและระดับของโบเก้ระหว่างหรือหลังถ่ายทำได้ในแอป ภาพถ่าย และ iMovie บน iOS