Razer แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมเมอร์ เปิดตัว 3 อุปกรณ์ไร้สายระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ ชุดหูฟัง BlackShark V2 Pro, เมาส์ DeathAdder V2 Pro และ คีย์บอร์ด BlackWidow V3 Pro มอบขีดสุดแห่งประสบการณ์เกมมิ่งด้วยประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวที่อิสระ ฉับไว อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยเทคโนโลยีไร้สายสุดล้ำ Razer™ HyperSpeed Wireless Technology เพื่อให้เกมเมอร์สามารถวาดลวดลายได้ดังใจโดยไม่มีสายไฟที่เกะกะและเชื่อมต่อสัญญาณได้อย่างเสถียรรวดเร็ว
“ทุกครั้งที่เราเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ จะมีแฟน ๆ จำนวนมากที่ถามถึงเวอร์ชั่นไร้สาย” อัลวิน เฉิง รองประธานกรรมการอาวุโส ฝ่าย Peripherals Business Unit ของเรเซอร์ กล่าว “ด้วยการนำเทคโนโลยีไร้สายที่ล้ำหน้าที่สุดในตลาดอย่าง Razer™ HyperSpeed Wireless Technology มาติดตั้งใน 3 อุปกรณ์ยอดนิยมของเรา ทำให้เราสามารถตอบสนองเสียงเรียกร้องของเหล่าเกมเมอร์ด้วยชุดอุปกรณ์ต่อพ่วงไร้สายที่สมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องลดทอนประสิทธิภาพการเชื่อมต่อลงแม้แต่น้อย”
เทคโนโลยี Razer™ HyperSpeed Wireless ใช้ระบบการสื่อสารข้อมูลที่ผ่านการปรับแต่งขั้นสูง ร่วมกับเทคโนโลยี Adaptive Frequency Technology เพื่อเพิ่มความเร็วและความเสถียรในการส่งสัญญาณ จึงทำให้เกิดความหน่วงสัญญาณต่ำมากเพียง 195 ไมโครวินาที ซึ่งเร็วกว่าเทคโนโลยีไร้สายทั่วไปถึง 25% และจากเทคโนโลยีที่เคยใช้เฉพาะในอุปกรณ์เมาส์ซึ่งผ่านการทดสอบและรับรองประสิทธิภาพโดยนักกีฬาอี-สปอร์ตทั่วโลก วันนี้ เทคโนโลยี Razer™ HyperSpeed Wireless ได้ถูกผสานลงในชุดหูฟังระดับแฟล็กชิปสำหรับอี-สปอร์ตและชุดคีย์บอร์ดสำหรับการเล่นเกมของเรเซอร์อย่างสมบูรณ์แบบเป็นที่เรียบร้อย
RAZER BLACKSHARK V2 PRO – ที่สุดแห่งพลังเสียงเพื่อชาวอี-สปอร์ต
ชุดหูฟัง BlackShark V2 Pro พัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยีเสียงและไมโครโฟนที่เคยสั่นสะเทือนวงการมาแล้วในรุ่น BlackShark V2 ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ผ่านการปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยก้านไมค์รุ่นใหม่และการเพิ่มห้องลำโพง และด้วยเทคโนโลยี Razer™ HyperSpeed Wireless ทำให้ชุดหูฟังนี้มอบสุดยอดคุณภาพเสียงที่ไม่สูญเสียรายละเอียดเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์เกมมิ่งแบบไร้สายที่มีความหน่วงต่ำ แบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมงและมีขอบเขตสัญญาณไร้สายไกลถึง 12 เมตร
BlackShark V2 Pro ยังคงใช้ไดรเวอร์ Razer™ TriForce Titanium 50 มม. เหมือนกับ BlackShark V2 รุ่นก่อนซึ่งคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย โดยรุ่นใหม่นี้จะเพิ่มห้องลำโพงเพื่อมอบเสียงที่เคลียร์ใสและชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมการปรับแต่งย่านความถี่ทั้งเสียงสูง กลาง และต่ำ แบบแยกแต่ละส่วน เพื่อมอบเสียงแหลมที่ชัดเจน เสียงกลางที่อิ่มแน่น และเสียงเบสที่กระหึ่มทรงพลัง ผสานกับเทคโนโลยี THX® Spatial Audio with Game Profiles สร้างพลังเสียงรอบทิศทางแบบ 360 องศาเพื่อมอบความได้เปรียบที่แตกต่างให้กับเกมเมอร์ ทำให้ BlackShark V2 Pro เป็นชุดหูฟังไร้สายที่สมบูรณ์แบบเพื่อกีฬาอี-สปอร์ตอย่างแท้จริง
BlackShark V2 Pro ยังมาพร้อมไมโครโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด HyperClear Cardioid Microphone ขนาด 9.9 มม. ให้คุณภาพเสียงพูดที่ชัดเจนระดับอัลตร้าเพื่อการสื่อสารในทีมที่แม่นยำแม้อยู่ท่ามกลางสนามรบที่ดุเดือด ด้วยระบบตัดเสียงรบกวนที่ปิดกั้นเสียงทั้งจากด้านหลังและด้านข้างได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผู้สวมใส่ชุดหูฟัง BlackShark V2 สามารถได้ยินเสียงความถี่ต่ำอย่างชัดเจน อีกทั้งตำแหน่งไมค์ยังจัดวางได้อย่างเหมาะสมและสะดวกต่อการใช้งาน เพื่อให้ทีมของคุณไม่พลาดการสื่อสารในช่วงเวลาสำคัญของเกม
Razer BlackShark V2 Pro มีน้ำหนักเบาเพียง 320 กรัม แต่มีความทนทานเป็นเลิศ พร้อมดีไซน์แป้นครอบแบบปิดสนิทหุ้มผ้าที่ให้สัมผัสนุ่มราวกับหนังซึ่งช่วยตัดเสียงรบกวนอันไม่พึงประสงค์จากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับเกมโปรดได้อย่างต่อเนื่องยาวนานและปราศจากการรบกวน แป้นครอบหูยังหุ้มด้วยวัสดุเมมโมรี่โฟมที่มอบความนุ่มสบายเป็นพิเศษและช่วยลดแรงกด โดยทั้งส่วนหุ้มครอบหูและสายครอบศีรษะใช้ผ้าทอแบบ FlowKnit ที่สามารถระบายอากาศได้ดี จึงช่วยลดเหงื่อและความร้อนที่เกิดจากการกดทับผิวสัมผัสเป็นเวลานาน ด้วยความประณีตในการออกแบบเหล่านี้ จึงทำให้ BlackShark V2 Pro เป็นสุดยอดหูฟังไร้สายที่ตอบสนองทุกความต้องการของคอเกมได้อย่างยอดเยี่ยม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
RAZER DEATHADDER V2 PRO – ที่สุดแห่งเมาส์ที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์
DeathAdder เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2006 และจำหน่ายได้มากกว่า 10 ล้านชิ้นทั่วโลก ถือว่าเป็นเมาส์รุ่นยอดนิยมสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เมาส์ของเรเซอร์ซึ่งได้รับความชื่อถือจากบรรดานักกีฬาอี-สปอร์ตระดับโลก ด้วยรูปทรงที่สอดคล้องตามหลักสรีระศาสตร์ ทำให้ DeathAdder คือจ้าวแห่งเมาส์ตัวจริง และเรเซอร์ได้ทำการอัปเกรดให้เป็นเวอร์ชั่นไร้สายด้วยเทคโนโลยี Razer™ HyperSpeed Wireless แล้วในวันนี้
เมาส์รุ่นล่าสุด DeathAdder V2 Pro นำเสนอการเชื่อมต่อ 3 โหมด พร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 120 ชั่วโมงเมื่อทำงานผ่านสัญญาณบลูทูธ และใช้ได้ 70 ชั่วโมงผ่านระบบไร้สาย Razer™ HyperSpeed Wireless ซึ่งจะมีความหน่วงสัญญญาณต่ำกว่า และยังสามารถชาร์จไฟด้วยสาย Razer™ Speedflex เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องและชาร์จไฟไปได้พร้อมกัน ซึ่งความล้ำสมัยทั้งหมดนี้บรรจุอยู่ในเมาส์น้ำหนักเพียง 88 กรัม โดยไม่ต้องใช้ปลอกเมาส์ที่เจาะลายรังผึ้งเพื่อลดน้ำหนักแต่อย่างใด
นอกจากนี้ DeathAdder V2 Pro ยังติดตั้ง 2nd Gen Razer Optical Mouse Switches เพื่อสัมผัสการคลิกที่เฉียบคมและปราศจากความเสี่ยงของการเผลอดับเบิลคลิกโดยไม่ตั้งใจ สวิตช์ระบบออปติคัลที่รวดเร็วและเชื่อถือได้นี้ยังรองรับการคลิกได้มากถึง 70 ล้านครั้ง ซึ่งถือว่ามากที่สุดของตลาดเมาส์เกมมิ่งในปัจจุบัน
ปุ่มที่ตั้งโปรแกรมได้ทั้ง 8 ปุ่มของ DeathAdder V2 Pro ยังสามารถตั้งค่าได้ตามความถนัดของผู้เล่นแต่ละคนผ่าน Razer Synapse 3 พร้อมความสามารถบันทึกโปรไฟล์การตั้งค่าใช้งานแบบออนบอร์ดได้ถึง 5 รูปแบบ จึงสามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นในเกมได้ในทันที DeathAdder V2 Pro ยังสามารถชาร์จไฟแบบไร้สายผ่านอุปกรณ์ Razer Mouse Dock Chroma (จำหน่ายแยก) ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ล้ำสมัยให้กับชุดเกมมิ่งของคุณด้วยไฟ RGB ที่โฉบเฉี่ยว ผสานด้วยระบบ Razer Focus+ 20K DPI Optical Sensor อันชาญฉลาด การออกแบบส่วนจับด้านข้างแบบ Injection-molded และแผ่นรองเมาส์ซึ่งใช้วัสดุโพลีเตตระฟลูออโรเอทิลีน 100% ทำให้ DeathAdder V2 Pro คือตัวเลือกเดียวของเกมเมอร์ตัวจริงอย่างไม่มีข้อแม้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
RAZER BLACKWIDOW V3 PRO – ที่สุดแห่งคีย์บอดระดับตำนาน
BlackWidow V3 Pro คือสมาชิกใหม่ล่าสุดในคีย์บอร์ดตระกูล BlackWidow ที่มีชื่อเสียงก้องโลกและถือเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นแรกของเรเซอร์ เมื่อติดอาวุธด้วยเทคโนโลยีไร้สาย Razer™ HyperSpeed Wireless ทำให้ Razer BlackWidow V3 Pro นำเสนอประสิทธิภาพของคีย์บอร์ดตระกูล BlackWidow สู่การเล่มเกมแบบไร้สายแบบเต็มตัวด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 200 ชั่วโมง พร้อม Razer Mechanical Switches และ Doubleshot ABS keycaps ที่ปรับปรุงใหม่ ทำให้ Razer BlackWidow V3 Pro คือคีย์บอร์ดที่ทำให้โต๊ะเกมของคุณปราศจากความยุ่งเหยิงของสายไฟและดูเรียบร้อยสวยงามมากยิ่งขึ้น
Razer BlackWidow V3 Pro ติดตั้ง Razer Mechanical Switches ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่พร้อมแป้นคีย์บอร์ดโปร่งใสเพื่อให้เห็นเอฟเฟกต์ Razer Chroma™ RGB ได้อย่างสวยงาม โดยออกแบบให้ Razer Yellow Mechanical Switches ทำงานได้เงียบขึ้นด้วยตัวดูดซับเสียงซิลิคอนใต้ปุ่มทุกปุ่มเพื่อมอบประสบการณ์เกมมิ่งที่เงียบยิ่งกว่า และด้วย Doubleshot ABS Keycaps อัปเกรดใหม่จึงช่วยต่อต้านการสึกหรอได้สูงสุดจากการใช้งานที่ต่อเนื่อง โดยแต่ละปุ่มสามารถกดได้กว่า 80 ล้านครั้งตลอดอายุการใช้งาน ทำให้เป็นคีย์บอร์ดที่เชื่อถือได้ ตอบสนองได้ฉับไว และพร้อมตะลุยไปกับคุณแม้ในเกมที่ดุเดือดที่สุด
BlackWidow V3 Pro มาพร้อมกรอบอลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทาน มีปุ่มกดที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันพร้อมหน้าปัดดิจิทัลที่ทำงานได้แบบมัลติฟังก์ชั่น และติดตั้งแป้นพักมือเมื่อต้องเล่มเกมเป็นเวลานานและเพิ่มความสบายในการกดปุ่มหรือการพิมพ์ ด้วยโหมดการเชื่อมต่อ 3 โหมดที่เปลี่ยนได้จากสวิตช์ด้านข้าง ทำให้ BlackWidow V3 Pro สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลายชิ้น ทั้งผ่านระบบไร้สาย Razer™ HyperSpeed Wireless ผ่านสาย USB-C ที่ถอดได้ หรือผ่านการจับคู่อุปกรณ์ด้วยสัญญาณบลูทูธได้มากถึง 3 อุปกรณ์ ทำให้เป็นคีย์บอร์ดที่ทำงานได้อเนกประสงค์มากที่สุดในตระกูล BlackWidow