รีวิว realme 10T 5G ดีไซน์ฝาหลัง HyperSpeed ซีพียู Dimensity 810 5G ที่รองรับเทรนด์อินเตอร์เน็ต 5G กล้องหลัง AI 3 ตัว 50MP

รีวิว realme 10T 5G ดีไซน์ฝาหลัง HyperSpeed ซีพียู Dimensity 810 5G ที่รองรับเทรนด์อินเตอร์เน็ต 5G กล้องหลัง AI 3 ตัว 50MP

เรียลมี ได้จัดงานเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ realme 10T 5G เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา โดยรุ่นนี้จะเป็นการอัปเกรดซีพียูใหม่ที่ทำงานได้ลื่นไหลเต็มประสิทธิภาพระดับแฟล็กชิป พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 5G เพื่อตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม สำหรับรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร มาติดตามรีวิวกันเลย

สเปก

ดีไซน์ Hyperspeed ตัวเครื่องบางเพียง 1 มิลลิเมตร

realme 10T 5G สีฟ้า Dash Blue มาพร้อมกับดีไซน์ฝาหลังแบบ “HyperSpeed” ที่คล้ายกันกับสมาร์ตโฟนรุ่นพี่อย่าง realme 10 Pro และ realme 10 Pro+ โดยการออกแบบ HyperSpeed นี้ได้ด้รับแรงบันดาลใจจากแสง ซึ่งพื้นผิวฝาหลังที่มีแสงมาตกกระทบจะสะท้อนแสงแตกออกจากกล้อง ทำให้มีความสวยงามและยังมีกริตเตอร์ที่เปรียบเสมือนหมู่ดวงดาวบนท้องฟ้าด้วยนั่นเอง

ด้วยกระบวนการ unicover ที่ผสมและรวมกล้องเข้ากับฝาหลังของตัวเครื่อง ทำให้กล้องและฝาหลังแนบชิดกันมากขึ้น ดูสวยงามไร้ที่ติ สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมาใน 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Dash Blue และสีดำ Electric Black

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาในดีไซน์บางเฉียบเพียง 8.1 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 187 กรัม ทำให้การหยิบจับตัวเครื่องทำได้ถนัดมือและไม่รู้สึกหนักจนเกินไป เมื่อถือใช้งานนานๆ

สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง

ด้านความปลอดภัย ก็ยังมาพร้อมกับปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องโดยใช้ร่วมกับปุ่มล็อค/ปลดล็อคตัวเครื่อง ที่มีการดีไซน์แนบชิดเข้ากับตัวเครื่อง และถึงแม้จะเป็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือขนาดเล็ก แต่ก็มีความแม่นยำและปลดล็อคตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว

หน้าจอ 6.6 นิ้ว ลื่นไหล 90Hz

ด้านดีไซน์ถือว่าจัดเต็มแล้ว หน้าจอก็ถือว่าให้มาในขนาดที่ใหญ่ถึง 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080×2408 FHD+และ หน้าจอสี 16.7 ล้านสี พร้อมกับดีไซน์แบบหยุดน้ำเพื่อฝังกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลไว้ด้านบนและขอบตัวเครื่องที่บาง มีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และ sampling rate สูงสุด 180Hz ทำให้สามารถใช้งานรับชมคอนเทนท์หรือเล่นเกมได้อย่างเต็มตาและสมูทลื่นไหล

ชิปเซ็ตใหม่ Dimensity 810 5G รองรับการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น

ในสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับชิปเซ็ตใหม่ Dimensity 810 5G ที่มีการอัปเกรดผสมผสานกับ Arm Cortex-A76 ที่มีความสามารถสูง พร้อม octa-core ที่ทางานด้วยความเร็วสูงสุด 2.4GHz ละด้วยการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร จึงทำให้มีประสิทธิภาพการประมวลผลที่สูง แต่กินพลังงานน้อยลง และยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งจะรองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด

GPU Arm Mali-G57 MC2 ที่มี clock speed 950MHz รองรับอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และ sampling rate สูงสุด 180Hz ทำให้การเล่นเกมทำได้อย่างลื่นไหล สามารถเล่นเกมที่มีการประมวลผลหรือกราฟิกสูงได้ อีกทั้งในระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12 ยังสามารถเลือก Pro Gamer Mode เพื่อปรับประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเล่นเกมได้

ระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12

ระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12 จะมาพร้อมกับไอคอน 3 มิติที่มีการออกแบบใหม่ พร้อมกับการออกแบบ Fluid Space ที่มีการเว้นพื้นที่ว่างและการแสดงผลที่ดูสมูท ใช้งานแล้วสบายตา รวมไปถึงฟังก์ชันความเป็นส่วนตัวที่ได้รับการปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการควบคุมการอนุญาตเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ และการซ่อนตำแหน่ง

เพิ่ม RAM สูงสุด 16GB (8+8GB) ด้วยเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion

ในด้านประสบการณ์การใช้งาน ยังรองรับ Dynamic RAM Expansion ได้สูงสุด 8GB โดยเป็นการแบ่งพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมาใช้งานเป็นหน่วยความจำเพื่อช่วยให้มีการทำงานและใช้งานตอบสนองแอปพลิเคชันต่างๆ ได้รวดเร็วมากขึ้น

หน่วยความจำสูงสุด 256GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 1TB

ด้านหน่วยความจำยังให้มาแบบไม่กั๊ก ด้วยพื้นที่ขนาด 256GB สามารถจัดเก็บไฟล์และข้อมูลได้อย่างเต็มที่ และยังไม่จุใจ ก็สามารถเลือกใช้หน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุด 1TB

กล้องหลัง AI Triple Camre ความละเอียด 50MP

ในด้านการถ่ายภาพ ก็ถือว่าจัดเต็มมาให้กับกล้องหลัง AI Triple Camera ที่มาพร้อมกับเลนส์หลักความละเอียด 50MP Ultra HD เลนส์ 5 ชิ้น มุมกว้าง 80° รูรับแสง f/1.8, เลนส์ Portrait มุมกว้าง 50° เลนส์ 2 ชิ้น และเลนส์ Macro ระยะ 4 เซ็นติเมตร เลนส​์ 3 ชิ้น มุมกว้าง 88.8°

เรียกได้ว่าให้มุมมองของเลนส์มาค่อนข้างครบ ขาดเพียงแค่เลนส์ไวด์หรือเลนส์มุมกว้างเท่านั้น ส่วนโหมดการถ่ายภาพก็ให้มาครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโหมดถ่ายภาพบุคคลที่สามารถปรับรูรับแสงเพื่อให้ฉากหลังเบลอมากหรือน้อย เป็นการช่วยให้แบบหรือวัตถุดูโดดเด่นมากขึ้น และถ้าหากต้องการรูปภาพความละเอียดสูงก็มีโหมด 50MP มาให้เลือกใช้ ซึ่งเป็นการถ่ายรูปภาพเต็มความละเอียด เพื่อนำไปใช้งานด้านอื่นๆ ต่อ

และในรุ่นนี้ก็ยังมาพร้อมกับโหมด Street Photography Mode 2.0 ที่ทางเรียลมีได้ทำงานร่วมกับช่างภาพสตรีทมืออาชีพหลายคน เพื่อหารือเกี่ยวกับการเล่าเรื่องของภาพถ่าย และนำมาพัฒนาโหมดการถ่ายภาพแนวสตรีทเพื่อตอบโจทย์ความรวดเร็วและสมจริง รวมถึงมีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้งานหลาก และเวอร์ชัน 2.0 นี้ ก็ได้เพิ่ม 90s Pop Filter เข้ามาเพื่อให้เลือกใช้งานกับการถ่ายภาพได้สนุกมากขึ้น

ตัวอย่างรูปภาพจากกล้องหลัง

กล้องหน้า AI 8MP

กล้องหน้าเซลฟี่ AI ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพบุคคลที่สามารถปรับความสวยงามของผิว, คาง, ดวงตา, จมูก ได้อย่างเต็มที่ จึงตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าเป็นอย่างมาก

รูปตัวอย่างจากกล้องหน้า

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ชาร์จไว 18W

มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ที่สามารถใช้งานได้ตลอดวัน อีกทั้งยังรองรับชาร์จเร็ว 18W ถึงแม้จะไม่ใช้ชาร์จเร็วระดับท็อปเหมือนกับรุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่ามีมาให้ดีกว่าไม่ดี และเมื่อมีชาร์จไวก็จะทำให้สามารถกลับมาใช้งานได้เร็วขึ้นนั่นเอง

สรุป realme 10T 5G

เป็นสมาร์ตโฟนที่มีดีไซน์สวย ด้วยฝาหลังดีไซน์ HyperSpeed ทำให้มีความโดดเด่นในการหยิบจับขึ้นมาใช้งาน อีกทั้งตัวเครื่องยังบางเพียง 8.1 มม. และน้ำหนักเบา 187 กรัม ไม่ว่าจะหยิบจับหรือพกพาก็ทำได้สะดวก หน้าจอขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรีเฟรทเรท 90Hz และ Touch sampling rate สูงถึง 180Hz ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในยุคนี้แล้ว ส่วนขุมพลังที่มีการอัปเกรดเป็น Dimensity 810 5G และ RAM 8GB ก็ถือว่าใช้งานได้อย่างลื่นไหล และเล่นเกมได้แบบสบายๆ อีกทั้งยังสามารถเพิ่ม RAM ได้สูงสุด 8GB ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งานมากขึ้น สำหรับด้านการจัดเก็บข้อมูลก็มีความจุ 256GB มาให้ และถ้ายังไม่พอก็เพิ่มด้วย microSD Card ได้สูงสุด 1TB ส่วนด้านภาพถ่ายก็จัดเต็มด้วยกล้องหลัง AI Triple Camera 50MP และกล้องหน้า AI 8MP รองรับการใช้งาน 5G ทั้ง 2 ซิมการ์ด พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh รองรับชาร์จไว 18W เรียกได้ว่าคุ้มค่าและครอบคลุมการใช้งานทั่วไปแล้ว

ราคาและการวางจำหน่าย

realme 10T 5G วางจำหน่าย 2 รุ่นความจุ โดยในรุ่นความจุ 4+128GB มาในราคา 6,999 บาท โดยสามารถสั่งซื้อได้กับช่องทางโอเปอร์เรเตอร์ 3 ช่องทาง ได้แก่ AIS, True และ DTAC ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,890 บาท รับไปเลยทันที realme Gift Box มูลค่า 1,199 บาท, E-VIP Card ประกันจอแตกนานสูงสุด 1 ปีมูลค่า 1,999 บาท และ realme Care Service และรุ่นความจุ 8+256GB ราคา 8,999 บาท สามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยจัดจำหน่ายวันแรกในวันที่ 8 เมษายน พิเศษ! ให้คุณเป็นเจ้าของได้ก่อนใครผ่านช่องทาง Shopee และ Lazada โดยสามารถสั่งซื้อ realme 10T 5G เฉพาะรุ่นความ 8+256GB ได้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนเป็นต้นไป พร้อมรับไปเลยทันทีเครื่องทำความชื้น Humidifier และแก้วน้ำ Tall Tumbler

Exit mobile version