Apple เปิดตัวสีใหม่ในโทนเขียวสวยสะดุดตาสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 13 ด้วยกันถึง 2 สี ได้แก่ iPhone 13 Pro สี Alpine green และ iPhone 13 สีเขียว
เมื่อต้นปี 2021 ที่ผ่านมา Apple ได้ทำการเปิดตัวสีม่วงให้กับ iPhone 12 และ iPhone 12 mini ในงาน Apple Event “Peek performance” ครั้งนี้ ก็ได้ทำการเปิดตัวสีใหม่ให้กับ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 โดยจะเป็นโทนสีเขียวทั้งคู่ แต่จะมีสีที่แตกต่างกันเล็กน้อย และจะทำให้ iPhone 13 Pro จะมีให้เลือกถึง 5 สี และ iPhone 13 จะมีให้เลือกถึง 6 สีด้วยกัน โดยจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันที่ 18 มีนาคมนี้ และวางจำหน่ายในวันที่ 25 มีนาคม
iPhone 13
ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย
- iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีวางจำหน่ายในสีเซียร์ร่าบลู, สีกราไฟต์, สีทอง และสีเงิน และจะมีจำหน่ายในสีเขียวอัลไพน์ใหม่ โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB ในราคาเริ่มต้นที่ 38,900 บาทและ 42,900 บาทตามลำดับ iPhone 13 และ iPhone 13 mini มีวางจำหน่ายในรุ่น (PRODUCT)RED,6 สีสตาร์ไลท์, สีมิดไนท์, สีน้ำเงิน และสีชมพู และจะมีวางจำหน่ายในสีเขียวใหม่ โดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ 128GB, 256GB และ 512GB ในราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท และ 25,900 บาท ตามลำดับ
- ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ล่วงหน้าในสีเขียวอัลไพน์ และ iPhone 13 และ iPhone 13 mini ในสีเขียวได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 18 มีนาคมและจะมีวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม
- ลูกค้าสามารถซื้อ iPhone 13 Pro ในราคา 3,890 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 เดือนก่อนการแลกซื้อ, iPhone 13 Pro Max ในราคา 4,290 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 เดือนก่อนการแลกซื้อ, iPhone 13 ในราคา 2,990 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 เดือนก่อนการแลกซื้อ และ iPhone 13 mini ในราคา 2,590 บาท ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 10 เดือนก่อนการแลกซื้อได้จาก apple.com/th/storeในแอป Apple Store® และที่ร้าน Apple Store7
- iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max, iPhone 13 และ iPhone 13 mini ยังมีวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์อีกหลายรายด้วย
- iOS 15.4 จะเปิดให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีตั้งแต่สัปดาห์หน้า
- Apple มีบริการหลายประเภทให้แก่ลูกค้าทั้งในร้านและทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือและคำแนะนำเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละรายจาก Apple Specialists จนถึงบริการจัดส่งและรับสินค้าที่ร้านที่สะดวกสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพราะ Apple ตั้งใจให้ Apple Store apple.com/th/store เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั่นเอง