ข้อมูลล่าสุดจากหัวเว่ยในงาน China Internet Conference ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เผยยอดผู้ใช้งานก้าวกระโดดของทั้ง Huawei Mobile Service และ AppGallery โดยอีโคซิสเต็ม HMS มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยยอดผู้ใช้อุปกรณ์หัวเว่ยทั่วโลกแตะ 700 ล้าน นับเป็นการเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วถึง 32% นอกจากนี้ในฝั่งของนักพัฒนาแอปพลิเคชัน มีผู้ลงทะเบียน Huawei developers ทั่วโลกเป็นจำนวน 1.6 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 76% รวมไปถึงแอปพลิเคชันกว่า 81,000 แอปพลิเคชันที่มีนวัตกรรมการทำงานร่วมกับ HMS Core เพื่อปลดล็อกความสามารถอย่างเต็มขั้นบนอุปกรณ์หัวเว่ย
เป็นระยะเวลากว่า 30 ปีที่หัวเว่ยทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเชื่อมต่อทางดิจิทัลที่ดีกว่าให้กับทุกคนและทุกองค์กรทั่วโลก เราเชื่อว่าในโลกที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่มีใครควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง หัวเว่ยจึงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนักพัฒนานวัตกรรมทั่วโลกในการทำงานร่วมกับ HMS เพื่อสร้างประสบการณ์อัจฉริยะที่ดียิ่งกว่าให้แก่ผู้บริโภค โดยล่าสุดหัวเว่ยได้ประกาศโครงการ Shining Star Program ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมนักพัฒนาทั่วโลกด้วยงบประมาณจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกว่า 10,000 แอปพลิเคชันได้รับเงินทุนเพื่อการพัฒนาจากโครงการนี้
“AppGallery เป็นแพลตฟอร์มที่รวมแอปพลิเคชันของหัวเว่ย ที่ครอบคลุมกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเราหวังว่าจะได้แบ่งปันนวัตกรรมดิจิทัลที่เราพัฒนาได้อย่างครอบคลุมให้กับคนทั่วโลก เราต้องการให้ทุกแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นจากพันธมิตรทั่วโลกสามารถให้บริการผู้ใช้อุปกรณ์หัวเว่ยที่มีถึง 700 ล้านคนได้” จาง ผิงอัน, ประธานฝ่ายคอนซูมเมอร์คลาวด์เซอร์วิส, หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวในงาน Huawei Developer Conference 2019 ในขณะเดียวกันแอปพลิเคชันจาก HMS อย่าง HUAWEI Video, HUAWEI Music และ HUAWEI Reader ที่ใช้ได้อย่างแพร่หลายทั่วโลกก็สามารถสร้างประสบการณ์ที่มาพร้อมคุณภาพสูงทั้งในด้านบริการและคอนเท็นต์ให้แก่ผู้บริโภคในหลายประเทศ
หัวเว่ยยังมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ชีวิตดิจิทัลอันอัจฉริยะและสะดวกสบายยิ่งกว่าด้วยบริการที่สร้างสรรค์กว่าเดิม เช่น Quick App แอปพลิเคชันรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องติดตั้งบนเครื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์เพียงแค่แตะแล้วใช้งานได้ทันที โดยไม่เปลืองพื้นที่ความจำบนเครื่อง นอกจากนั้นยังมีบริการ Ability ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ของหัวเว่ย ประกอบด้วย Content Ability, Card Ability และ App Ability ที่สามารถให้บริการคุณภาพสูงและสามารถเข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเพื่อเป็นการสนับสนุนพันธมิตรและนักพัฒนานวัตกรรมทั่วโลก หัวเว่ยได้เปิดตัว “Chipset-Device-Cloud” ที่ทำงานผ่าน HMS Core เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงชุดเครื่องมือการเรียนรู้เชิงเทคนิคของหัวเว่ย (Huawei’s Machine Learning) เช่น HiAI, AR Engine และอื่นๆ โดย HMS Core 5.0 สามารถใช้งานได้แล้วทั่วโลกและจะเพิ่มขีดความสามารถของทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของหัวเว่ย เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้อีโคซิสเต็มของหัวเว่ยทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น หัวเว่ยยังมีบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ one-stop เต็มรูปแบบในกว่า 67 สาขาผ่าน AppGallery Connect เพื่อช่วยนักพัฒนาในการสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และส่งผลงานออกสู่สายตาชาวโลก
ปัจจุบัน Huawei Mobile Service มีศูนย์กลางการให้บริการใน 6 ภูมิภาคทั่วโลก และหัวเว่ยยังสามารถปรับการให้บริการให้เหมาะสมกับแต่ละภูมิภาคผ่าน DIGIX Lab, HUAWEI Developer, Huawei Developer Day, และโครงการอื่นๆ อีกมากมาย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของหัวเว่ยที่จะสนับสนุนนวัตกรรมทั้งในด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาแอปพลิเคชันในวงการนักพัฒนาทั่วโลก