หลังจากที่เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้ากันในวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา และจะเปิดวางจำหน่ายในวันที่ 20 กันยายนนี้ ทาง The All Apps ก็ขอพาทุกท่านมาชมพรีวิว พาชม iPhone 16 สีน้ำเงิน Ultramarine เครื่องศูนย์ไทยกันก่อนที่จะรีวิวลงลึก มาดูว่าจะสวยงามแค่ไหน ไปติดตามกันเลย
สเปก iPhone 16
- ขนาดตัวเครื่อง 147.6 มม. x 71.6 มม. x 7.8 มม.
- น้ำหนัก 170 กรัม
- ดีไซน์แบบอะลูมิเนียมด้านหลังแบบกระจกแต่งสี (ดำ, ชมพู, เขียวอมฟ้า, น้ำเงินอัลตร้ามารีน)
- หน้าจอ Super Retina XDR แบบ OLED ทั้งหน้าจอ ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556 x 1179 พิกเซลที่ 460 ppi
- กระจกกันรอย Ceramic Shield
- การทนน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP68 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ตามมาตรฐาน IEC 60529
- ชิป A18
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128GB, 256GB, 512GB
- กล้องหลังเลนส์คู่
- Fusion 48MP: 26 มม., รูรับแสงขนาด ƒ/1.6, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์, Focus Pixels 100%, รองรับภาพถ่ายความละเอียดสูงเป็นพิเศษ (24MP และ 48MP) สามารถใช้เทเลโฟโต้ 2 เท่า 12MP: 52 มม.
- อัลตร้าไวด์ 12MP: 13 มม., รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 และมุมมองภาพ 120°, Focus Pixels 100%
- กล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/1.9 ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels
- ระบบปฏิบัติการ iOS 18
- รองรับ 5G (sub‑6 GHz) พร้อม MIMO แบบ 4×4, Gigabit LTE พร้อม MIMO แบบ 4×4 และ LAA
- Wi‑Fi 7 (มาตรฐาน 802.11be) พร้อม MIMO แบบ 2×2
- Bluetooth 5.3
- ชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 2
- เทคโนโลยีระบบเครือข่าย Thread
- NFC พร้อมโหมดตัวอ่าน
- พอร์ต USB-C
- SIM คู่ (Nano-SIM และ eSIM)
แกะกล่อง iPhone 16 เครื่องศูนย์ไทย
สำหรับกล่อง iPhone 16 ยังคงมาในกล่องสีขาวและมีรูปตัวเครื่องโดยแสดงให้เห็นถึงสีของตัวเครื่องและขนาดเท่าเครื่องจริงเอาไว้บนหน้ากล่อง ส่วนด้านหลังถ้าเป็นเครื่องศูนย์ไทยก็จะมีข้อมูลภาษาไทยมาให้ด้วย แน่นอนว่ายังคงซีลด้วยแถบกระดาษทั้งด้านบนและด้านล่างเช่นเคย หากใครที่ได้มาแล้วไม่เห็นซีลนี้ก็ต้องระวังเรื่องตัวเครื่องไว้ด้วย
เมื่อเปิดกล่องออกมา ก็จะพบกับอุปกรณ์ภายในกล่อง ซึ่งครั้งนี้ได้มีการจัดเรียงรูปแบบใหม่ โดยจะเผยให้เห็นสายชาร์จ USB-C แบบถักและเข็มจิ้มถาดซิมการ์ดมาให้ ด้านล่างจะมีเอกสารและคู่มือภาษาไทย รวมถึงเอกสารของ กสทช. อีกด้วย และในรุ่นนี้ไม่มีแถมสติ๊กเกอร์ Apple มาให้แล้ว
ดีไซน์ตัวเครื่อง iPhone 16
iPhone 16 ยังคงมาพร้อมกับขอบตัวเครื่องอะลูมิเนียม และด้านหลังเป็นกระจกผิวด้าน สัมผัสแล้วให้ความรู้สึกที่ดี และรอยนิ้วมือติดยาก ส่วนเลนส์กล้องคู่มีการปรับดีไซน์ให้เป็นแนวตรง พร้อมกับไฟแฟลช LED ด้านข้าง
ซึ่งกล้องคู่ของ iPhone 16 จะประกอบไปด้วย กล้องหลัก Fusion ความละเอียด 48MP: 26 มม., รูรับแสงขนาด ƒ/1.6 สามารถใช้เทเลโฟโต้ 2 เท่า ความละเอียด 12MP: 52 มม. ในกล้องเดียวกันได้ และยังมีกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP ที่สามารถใช้งานถ่ายภาพมาโครได้
ปุ่มแอคชั่นใน iPhone 15 Pro ได้ถูกนำมาใช้งานใน iPhone 16 แล้ว ซึ่งสามารถใช้งานเป็นปุ่มคำสั่งต่างๆ ได้ แค่กดปุ่มครั้งเดียว และในปี 2024 นี้ ทาง Apple ก็ได้ใส่ตัวควบคุมกล้อง (Camera Control) มาให้กับ iPhone 16 Series ทุกรุ่นอีกด้วย และด้านซ้ายของตัวเครื่องก็จะมีปุ่มปรับระดับเสียง รวมถึงช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด
ตัวควบคุมกล้อง (Camera Control) จะเป็นปุ่มแนวยาวที่ลึกลงมาจากด้านข้างตัวเครื่องเล็กน้อย จะเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องได้ และยังสามารถซูมเข้า-ออก ด้วยการเลื่อนนิ้วมือได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นปุ่มลัดสำหรับเข้าเมนูกล้องตอนที่เครื่องยังไม่ได้ปลดล็อคได้อีกด้วย แค่กดปุ่มนี้ค้างไว้เท่านั้น
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีรูไมโครโฟน, พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จหรือโอนถ่ายข้อมูล และลำโพงสปีกเกอร์
iPhone 16 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว เป็นขนาดที่กำลังดี พกพาสะดวก จอ Super Retina XDR แบบ OLED ทั้งหน้าจอ ความละเอียด 2556 x 1179 พิกเซลที่ 460 ppi แน่นอนว่ายังคงมาพร้อมกับ Dynamic Island
สำหรับการใช้งานด้านภาพถ่าย รวมถึงการใช้งานด้านต่างๆ ของตัวเครื่องและ iOS 18 ทางทีมงาน The All Apps ขอไปลองใช้สักพักก่อน แล้วเดี๋ยวเราจะมารีวิวลงลึกกัน
ราคา iPhone 16
- iPhone 16 รุ่นความจุ 128GB ราคา 29,900 บาท
- iPhone 16 รุ่นความจุ 256GB ราคา 33,900 บาท
- iPhone 16 รุ่นความจุ 512GB ราคา 41,900 บาท