รีวิว realme 10 Pro+ 5G และ realme 10 Pro 5G สมาร์ตโฟนดีไซน์สวย กล้อง ProLight 108MP ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท

รีวิว realme 10 Pro+ 5G และ realme 10 Pro 5G สมาร์ตโฟนดีไซน์สวย กล้อง ProLight 108MP ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท

เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ realme 10 Pro+ 5G และ realme 10 Pro 5G สมาร์ตโฟนดีไซน์สวยที่ได้แรงบันดาลใจจาก Hyperspace และมาพร้อมกับกล้องหลัง ProLight ความละเอียด 108MP และหลังจากที่ได้ทำการแกะกล่อง พรีวิวตัวเครื่องกันไปก่อนหน้านี้ สมาร์ตโฟนทั้งสองรุ่นนี้จะมีอะไรน่าสนใจ และใช้งานเป็นอย่างไร มาติดตามรีวิวจาก The All Apps กันเลย

สเปก realme 10 Pro+ 5G

ดีไซน์ Hyperspace แรงบันดาลใจจากอุโมงค์ไฮเปอร์สเปซ

realme 10 Pro+ 5G นั้นมีดีไซน์ Hyperspace ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดอุโมงค์ไฮเปอร์สเปซที่อลังการด้วยเส้นแสง 3 มิติ มีลูกเล่นแสดงลวดลายพร้อมสีสันสวยงามเมื่อมีแสงมาตกกระทบ ซึ่งจะเป็นลายเส้นที่พุ่งออกมาจากดีไซน์กล้องคู่เหมือนกำลังพุ่งทะยานผ่านไฮเปอร์สเปซด้วยความเร็วแสง โดยการดีไซน์ลักษณะนี้จะสื่อถึงความเร็วและความแรงของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตและการเชื่อมต่อ 5G และถ้ามองเข้าไปใกล้ๆ ก็จะเห็นกริตเตอร์ที่เป็นลักษณะเหมือนดวงดาวท่ากลางไฮเปอร์สเปซเลยทีเดียว และอีกสีจะเป็น Dark Matter สีดำด้านที่มาในรูปแบบเรียบๆ ดูเข้มขึม ให้ความสวยงามอีกรูปแบบ

realme 10 Pro+ 5G ยังมาพร้อมกับความเพรียวบาง ตัวเครื่องหนาเพียง 7.95 มม. สามารถหยิบจับได้สะดวก และยังถือใช้งานนานๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปอย่างเล่นโซเชียล, ถ่ายรูป, ถ่ายเซลฟี่ หรือแม้แต่การเล่นเกมก็ไม่รู้สึกเมื่อยมือ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา 175 กรัม

ครั้งแรกกับหน้าจอขอบโค้ง 120Hz

ครั้งแรกของ Number Series กับหน้าจอขอบโค้ง 120Hz ดีไซน์ Hyperspace พร้อมกับเทคโนโลยี 2160Hz PWM Dimming บนหน้าจอขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว เจาะรูฝังกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และยังมาพร้อมกับดีไซน์ขอบด้านข้างบางเพียง 1.41 มม. และขอบด้านล่างบาง เพียง 2.33 มม. ถือเป็นขอบด้านล่างที่แคบที่สุดในไทยสำหรับสมาร์ตโฟนจอโค้ง ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.65% รองรับ HDR 10+ มีความสว่างสูงสุด 800 nits สู้แสงกลางแจ้งได้แบบสบายๆ พร้อมรองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ

โดยการใช้งานก็ให้สีสันที่สวยงามสมจริง ใช้งานแล้วสบายตา เนื่องจากหน้าจอมีโหมดลดแสง PWM 2160Hz แบบอัตโนมัติ ช่วยให้การกระพริบของหน้าจอเนียนตาขึ้น โดยเฉพาะการใช้งานในที่มืดหรือที่แสงน้อยความสว่างต่ำกว่า 90 นิต ก็ยังคงแสดงผลสีสันที่แม่นยำและสมจริง พร้อมผ่านมาตรฐาน TÜV Rheinland ลดแสงสีฟ้า ปกป้องดวงตาโดยไม่ใช้เอฟเฟคส์สีเหลือง และยังเป็นครั้งแรกของโลกที่ผ่านการรับรอง Flicker free

กล้องหลัง ProLight 108MP

realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 เลนส์ แต่จะเป็นดีไซน์กล้องเลนส์คู่ Twin-lens Reflex (TLR) ซึ่งประกอบไปด้วย เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75) , เลนส์มุมกว้าง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และเลนส์ Macro ระยะ 4 ซม. ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

และเป็นครั้งแรกของสมาร์ตโฟน Number Series ที่ได้นำสถาปัตยกรรม HyperShot Imaging ที่มาจากรุ่นเรือธงอย่าง GT Series โดยมีการปรับปรุงอัลกอริทึ่มการถ่ายภาพ AI และการถ่ายภาพ RAW ให้มีความความเร็วในการถ่ายภาพ 108MP ภายใน 0.6 วินาที เร็วกว่ารุ่นก่อน 5 เท่า และยังเพิ่มความความชัดเจนรวมถึงการถ่ายภาพในตอนกลางคืนหรือในที่แสงน้อยที่ทำได้ดีขึ้น และยังมาพร้อมกับ Street Photography Mode 3.0 ที่มีการเพิ่มลายน้ำสำหรับฟิลเตอร์อัจริยะนี้เข้ามา

ในการถ่ายภาพก็จะมี AI เข้ามาช่วยประมวลผลการถ่ายภาพต่างๆ รวมถึงรองรับ HDR และยังสามารถเลือกฟิลเตอร์เพื่อความสวยงามเพิ่มเติมได้ ในการถ่ายภาพบุคคลก็ยังทำได้ดี สามารถเลือกปรับเบลอพื้นหลังเพื่อให้บุคคลโดดเด่นขึ้นมาได้ และถ้าหากต้องการภาพที่มีความละเอียดสูง ก็สามาถรเลือกถ่ายภาพด้วยโหมด 108MP ได้ และในรุ่นนี้ก็ยังมาพร้อมกับ Street Photography Mode 3.0 มาพร้อมฟิลเตอร์สวยงามให้เลือกใช้มากมาย และในประเทศไทยก็จะมีชื่อฟิลเตอร์ให้เลือกใช้ตามสไตล์ของแต่ละสถานที่ อาทิ สยาม, สวนเบญจกิตติ, พัทยา, เกาะพีพี และอีกมากมาย ซึ่งภาพที่ได้ก็มีคุณภาพที่ดี ประทับใจกับตัวกล้องมากๆ ซึ่งในช่วงหลังที่ได้รับรีวิวสมาร์ตโฟนจากเรียลมีต้องบอกว่ากล้องได้ทำประทับใจทุกรุ่นจริงๆ

รูปภาพตัวอย่างกล้องหลัง

กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16MP

realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมกับกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยมีฟีเจอร์ถ่ายภาพบคุคลที่สามารถปรับแต่งสีผิว, ความสวยงาม รวมถึงการเบลอฉากหลังเพื่อให้เซลฟี่ได้โดดเด่นมากขึ้น

รูปภาพตัวอย่างกล้องหน้า

ขุมพลัง พร้อม realme UI 4.0

ด้านขุมพลัง realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต Dimensity 920 5G พร้อม RAM 12GB และมีฟีเจอร์ Dynamic RAM ที่สามารถเพิ่ม RAM ได้สูงสุด 12GB เพื่อประมวลผลการทำงานที่เร็วยิ่งขึ้น และให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256GB รองรับหน่วยความจำภายนอกสูงสุด 1TB รันระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด realme UI 4.0 บนพื้นฐาน Android 13 ที่มีการออกแบบอินเตอร์เฟซ ปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน ความลื่นไหล และความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อมอบความสะดวกสบายและประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นสูงสุด

โดยขุมพลังที่ให้มานั้น บอกได้เลยว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโซเชียล, ดูหนัง, ดู YouTube และสำหรับการเล่นเกมก็ถือว่าเล่นเกมกราฟิกสูงๆ ได้แบบสบายๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับโหมด Hyperboost ที่สามารถปรับโหมดเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเล่นเกมได้ และยังปิดการแจ้งเตือนหรือล็อคหน้าจอเพื่อไม่ให้เผลอสัมผัสปุ่มต่างๆ และกลายเป็นออกจากเกมโดยที่ไม่ตั้งใจได้

แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จไว 67W SuperVOOC

แบตเตอรี่ที่ให้มามีขนาดใหญ่ที่มีความจุถึง 5,000mAh สามารถใช้งานทั่วไปได้ตลอดวันแบบสบายๆ แต่ถ้าเล่นเกมต่อเนื่องก็อาจจะต้องมีการชาร์จระหว่างวันบ้าง แต่ก็หมดกังวลกับฟีเจอร์ชาร์จไว 67W SuperVOOC ที่สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 100% ได้ภายใน 47 นาที โดยใช้อะแดปเตอร์ชาร์จไว 67W ที่แถมมาในกล่อง เพียงเท่านี้ก็สามารถกลับมาใช้งานได้ใหม่อีกครั้งแล้ว หรือถ้าหากแบตเตอรี่เหลือน้อย ก็ยังมีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้งานเพื่อยืดแบตเตอรี่ให้อยู่ได้นานขึ้น

สรุปความคิดเห็น realme 10 Pro+ 5G

realme 10 Pro+ 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่มีดีไซน์สวยงาม โดยเฉพาะสี Hyperspace ที่มาพร้อมกับลูกเล่นฝาหลังที่สามารถแสดงผลตามแสงสะท้อน ให้ความสวยงามแปลกตา และยังมาในดีไซน์กล้องคู่แต่จะมีการใช้งานถึง 3 เลนส์ สำหรับเลนส์หลักมีความละเอียดถึง 108 ล้านพิกเซล มาพร้อมลูกเล่นมากมาย เลนส์ที่ให้มาใช้งานก็ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเลนส์มุมกว้าง รวมไปถึงการถ่ายภาพบุคคลและภาพระยะใกล้ ส่วนหน้าจอขอบโค้งก็มีความสวยงามและยังให้ความสบายตาในเวลาใช้งาน ตัวเครื่องบางเบา หยิบจับได้ถนัดมือ แถมขุมพลังยังเพียงพอต่อการใช้งานและเล่นเกมกราฟิกสูงๆ อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จไว 67W SuperVOOC ได้ทั้งกล้องระดับท็อป ดีไซน์พรีเมี่ยมคุ้มค่ากับราคา 15,999 บาทเลย

สเปก realme 10 Pro 5G

ดีไซน์เรียบหรู

realme 10 Pro 5G มาในดีไซน์เรียบหรู พร้อมขอบเรียบแบบคลาสสิก ในรุ่นนี้ยังมีการออกแบบด้วยการใช้เทคโนโลยี RAZR วางเสาอากาศ 8 เสารอบตัวเครื่องได้อย่างครอบคลุม เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การเช่ือมต่อโดยรวม และยังลดการใช้งานพื้นที่ที่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง ส่งผลให้มีตัวเครื่องบาง 8.1 มม. มาพร้อมกับปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และมีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ด้วย รองรับพอร์ต USB-C น้ำหนักตัวเครื่องในแต่ละสีจะไม่เท่ากัน โดยมีน้ำหนัก 192 กรัม (Hyperspace), 190 กรัม (Dark Matter,Nebula Blue) ซึ่งจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังให้การจับที่ถนัดมืออยู่

สำหรับสีที่ทีมงานได้มาทดสอบก็คือ สีดำ Dark Matter ที่ให้สัมผัสพื้นผิวแบบด้าน รอยนิ้วมือติดยาก มีความเรียบหรูและดูขรึม อีกทั้งสีของตัวเครื่องยังเข้ากับขอบตัวเครื่องด้านข้างที่มาในโทนสีเดียวกัน ทำให้ดูสวยงามน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

หน้าจอขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว พร้อมขอบด้านข้างบาง 1 มม.

realme 10 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz โดยเป็นหน้าจอแบนเรียบ ด้วยเทคโนโลยี TopNotch ที่รวมเซ็นเซอร์วัดแสงไว้ขอบด้านบนของกรอบตัวเครื่อง ทำให้ได้หน้าจอที่กว้างขึ้นและมีขอบด้านข้างบางพิเศษ 1 มม. ขอบด้านบน 1.15 มม. มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.76% มอบการใช้งานและรับชมคอนเทนท์ได้แบบเต็มตา และมีการเจาะรูบนหน้าจอเพื่อฝังกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และหน้าจอยังผ่านการรับรองมาตรฐานลดแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland ช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตา แต่ความสว่างของหน้าจออาจจะไม่ค่อยสู้แสงกลางแจ้งสักเท่าไรนัก แต่ใช้งานในที่ร่มไม่มีปัญหาใดๆ เลย

realme 10 Pro 5G จะมาในดีไซน์ขอบเรียบแบบคลาสสิก ตัวเครื่องบาง 8.1 มม. ยังหยิบจับได้ถนัดมือ มาพร้อมกับปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และมีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ด้วย รองรับพอร์ต USB-C

กล้องหลัง ProLight 108MP

realme 10 Pro 5G ยังมาพร้อมกับกล้องระดับเดียวกันกับ realme 10 Pro+ 5G โดยมีดีไซน์กล้องหลังเลนส์คู่แบบเดียวกัน แต่จะใช้งานเลนส์คู่ ประกอบด้วยเลนส์หลัก ProLight ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 และ เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มาพร้อมกับสถาปัตกรรม HyperShot Imaging และ Street Photography Mode 3.0

ในการถ่ายภาพก็จะมี AI เข้ามาช่วยประมวลผลการถ่ายภาพต่างๆ รวมถึงรองรับ HDR และยังสามารถเลือกฟิลเตอร์เพื่อความสวยงามเพิ่มเติมได้ ในการถ่ายภาพบุคคลก็ยังทำได้ดี สามารถเลือกปรับเบลอพื้นหลังเพื่อให้บุคคลโดดเด่นขึ้นมาได้ และถ้าหากต้องการภาพที่มีความละเอียดสูง ก็สามาถรเลือกถ่ายภาพด้วยโหมด 108MP ได้ และในรุ่นนี้ก็ยังมาพร้อมกับ Street Photography Mode 3.0 มาพร้อมฟิลเตอร์สวยงามให้เลือกใช้มากมาย และในประเทศไทยก็จะมีชื่อฟิลเตอร์ให้เลือกใช้ตามสไตล์ของแต่ละสถานที่ อาทิ สยาม, สวนเบญจกิตติ, พัทยา, เกาะพีพี และอีกมากมาย

รูปภาพตัวอย่างกล้องหลัง

กล้องหน้าเซลฟี่ 16MP

กล้องหน้าเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล ก็มาพร้อมกับโหมดบิวตี้ สามารถเซลฟี่ได้หน้าเนียนใสและยังมาพร้อมกับโหมดเซลฟี่ภาพบุคคลที่ช่วยเบลอฉากหลังเพื่อให้การเซลฟี่ได้โดดเด่นมากขึ้น ซึ่งการปรับแสงสีและความเนียนของผิวก็ทำได้เป็นธรรมชาติ

รูปภาพตัวอย่างกล้องหน้า

ขุมพลัง Snapdragon 695 5G

ในด้านขุมพลังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G เทคโนโลยีการผลิต 6 นาโนเมตร รองรับการเชื่อมต่อ 5G พร้อม RAM 8GB รองรับ Dynamic RAM ที่สามารปรับเพิ่มได้สูงสุด 8GB จึงทำให้สามารถใช้ RAM ในการประมวลผลได้สูงสุด 16GB มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256GB แบบ UFS 2.2 รองรับหน่วยความจำภายนอกสูงสุด 1TB รันระบบปฏิบัติการ realme UI 4.0 บนพื้นฐาน Android 13

เรียกได้ว่าสเปกที่ให้มานั้นก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแบบเหลือเฟือ สำหรับการเล่นเกมก็บอกได้เลยว่ายังทำได้ดี มี Hyperboost สำหรับการเร่งประสิทธิภาพเครื่องสูงสุดเพื่อการเล่นเกม และยังมี UltraBoom Speaker เพิ่มเสียงลำโพงสเตอริโอคู่ผ่านซอฟท์แวร์ได้ถึง 200% เพื่อเสียงที่กระหึ่มสะใจสายบันเทิงมากขึ้น

แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จไว 33W SuperVOOC

realme 10 Pro 5G พร้อมให้ใช้งานตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh สามารถใช้งานได้ตลอดวัน และยังมีโหมดประหยัดพลังงานที่จะช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้นหรือสำหรับยืดแบตเตอรี่ออกไปในยามฉุกเฉินหรือเวลาที่ต้องการเก็บแบตเตอรี่ไว้สำหรับใช้งานตอนสำคัญๆ นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จไว 33W SuperVOOC เพื่อให้เวลาชาร์จไม่ต้องรอนาน

สรุปความคิดเห็น realme 10 Pro 5G

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับ realme 10 Pro Series ที่อาจจะไม่ต้องการสเปกและดีไซน์สุดพรีเมี่ยมแบบ realme 10 Pro+ 5G แต่ต้องการสมาร์ตโฟนที่เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป กล้อง ProLighr 108MP ระดับท็อป และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมการเชื่อมต่อ 5G ซึ่ง realme 10 Pro 5G ก็ออกมาเพื่อตอบโจทย์ในส่วนนี้ อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่เรียบหรูและยังมีสีสันให้เลือกในรูปแบบเดียวกัน โดยมีราคาเพียง 11,999 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากๆ

ราคาและการวางจำหน่าย realme 10 Pro+ 5G และ realme 10 Pro 5G

realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมรุ่นความจุ 12+256GB โดยมีให้เลือก 2 สีคือ สีทองไฮเปอร์สเปซและสีดำดาร์คแมตเตอร์ ราคา 15,999 บาท สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม – 16 ธันวาคม พร้อมรับส่วนลดพิเศษโดยในวันที่จองจะได้รับส่วนลด 500 บาท และในวันรับเครื่องรับส่วนลดเพิ่มอีก 1,000 บาท (เหลือเพียง 14,499 บาท) และจัดจำหน่ายวันแรกในวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ผ่านช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สำหรับช่องทางออนไลน์ เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะทาง Shopee ที่เดียว พร้อมราคาพิเศษเฉพาะวันที่ 12-25 ธันวาคม ราคาเพียง 14,999 บาทเท่านั้น

realme 10 Pro 5G มาพร้อมรุ่นความจุ 8+256GB โดยมีให้เลือก 3 สีคือ สีทองไฮเปอร์สเปซ, สีฟ้าเนบิวลาและสีดำดาร์คแมตเตอร์ ราคาปกติ 11,999 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม – 16 ธันวาคม พร้อมรับส่วนลดพิเศษโดยในวันที่จองจะได้รับส่วนลด 500 บาท และในวันรับเครื่องรับส่วนลดเพิ่มอีก 500 บาท (เหลือเพียง 10,999 บาท) และจัดจำหน่ายวันแรกในวันที่ 17 ธันวาคม ผ่านช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พิเศษ! เรียลมียังจัดให้แบบจุใจสำหรับการเปิดจำหน่ายวันแรก เตรียมส่งความสนุกพร้อมความคุ้มค่าส่งท้ายปีกับกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์มากมาย ณ realme brand shop สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ พบกับ KOL มากความสามารถที่จะมาร่วมสร้างสีสันอย่างเต็มอิ่ม และสำหรับช่องทางออนไลน์ จำหน่ายบนช่องทาง Shopee, Lazada และ JC Central ในวันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัว realme 10 Pro Series เรียลมียังเตรียมส่งความคุ้มค่าอย่างต่อเนื่องกับแคมเปญสุดพิเศษ realme Golden 12.12 พร้อมโปรโมชันและส่วนลดสุดคุ้มอย่างจุใจ แฟน ๆเรียลมีสามารถติดตามรายละเอียดได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก realme Official Fan Page หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการได้ที่เว็บไซต์ realme https://www.realme.com/

Exit mobile version