แกะกล่อง พรีวิว iPhone 14 Plus สีแดง PRODUCT(RED) เครื่องศูนย์ไทย ไอโฟนหน้าจอใหญ่ 6.7 นิ้ว อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนชอบจอใหญ่แต่ไม่ต้องการสเปกระดับโปร

ในปี 2022 นี้ ทาง Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone 14 Plus โดยมีหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว เป็นขนาดหน้าจอเท่ากันกับ iPhone 14 Pro Max เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานไอโฟนหน้าจอใหญ่ แต่ไม่ได้ต้องการสเปกในระดับโปร และในวันนี้ The All Apps ก็จะมาทำการแกะกล่อง พรีวิว สีแดง PRODUCT(RED) เครื่องศูนย์ไทยให้ทุกท่านได้รับชมกัน

สเปก iPhone 14 Plus

ขนาดตัวเครื่อง 160.8 x 78.1 x 7.8 มม.
น้ำหนัก 203 กรัม
หน้าจอ Super Retina XDR จอภาพ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2778 x 1284 พิกเซลที่ 458 ppi อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 (ทั่วไป) ความสว่างสูงสุด 800 นิต (ทั่วไป) และความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด 1,200 นิต (HDR)
กระจกกันรอย Ceramic Shield
ชิป A15 Bionic CPU แบบ 6‑core ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์, Neural Engine แบบ 16‑core
ความจุ 128GB, 256GB, 512GB
กล้องหลัง
- กล้องหลักความละเอียด 12MP: 26 มม., รูรับแสงขนาด ƒ/1.5, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์, ชุดเลนส์ 7 ชิ้น, Focus Pixels 100%
- กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP: 13 มม., รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 และมุมมองภาพ 120°, ชุดเลนส์ 5 ชิ้น
- ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า และซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า
- แฟลช True Tone
- Photonic Engine
- Deep Fusion
- บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps
- โหมดภาพยนตร์สูงสุด 4K HDR ที่ 30 fps
กล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/1.9 ออโต้โฟกัสด้วย Focus Pixels บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps
ระบบปฏิบัติการ iOS 16
ความปลอดภัย FaceID
รองรับ MagSafe ชาร์จแบบไร้สายสูงสุด 15 วัตต์
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth, NFC
GPS, GLONASS, Galileo, QZSS และ BeiDou
มาตรฐานทนน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP68
สี มิดไนท์, ม่วง, สตาร์ไลท์, (PRODUCT)RED, ฟ้า

แกะกล่อง

กล่องของ iPhone 14 Series ในปีนี้จะมาในสีขาว และจะมีการพิมพ์กราฟิกด้านหน้าตัวเครื่องพร้อมกับเผยให้เห็นสีของตัวเครื่องบนหน้ากล่องแบบชัดเจน รวมถึงโลโก้ Apple และคำว่า iPhone ที่ด้านข้างตัวเครื่องก็จะเป็นสีเดียวกันกับตัวเครื่อง

สำหรับเครื่องศูนย์ไทย ด้านหลังจะมาพร้อมกับรายละเอียดภาษาไทย ซึ่งจะมีการแจ้งรายละเอียดว่าภายในกล่องจะมีอุปกรณ์อะไรที่มาในชุดจัดจำหน่ายบ้าง รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับความจุของตัวเครื่อง อย่างเครื่องที่กำลังแกะกล่องอยู่นี้จะมีความจุที่ 512GB

ตัวกล่องยังถูกซีลด้วยกระดาษด้านบนและด้านล่าง ซึ่งถ้าหากใครที่ได้มาโดยซีลนี้ไม่อยู่หรือมีการฉีกขาดแล้ว ให้ทำการปฏิเสธรับตัวกล่องไป เพราะซีลนี้จะไม่สามารถนำกลับมาติดใหม่ได้ เมื่อมีการฉีกออกเพื่อทำการแกะกล่อง

เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับตัวเครื่องวางคว่ำโชว์ความสวยงามของตัวเครื่องและเลนส์คู่ที่วางในแนวทะแยง ซึ่งด้านหน้าตัวเครื่องจะมีการปิดสิต๊กเกอร์กระดาษกันรอยขีดข่วนเอาไว้

ด้านในชุดจัดจำหน่ายจะมาพร้อมกับซองใส่เอกสาร ซึ่งจะมีคู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น การรับประกัน และ เอกสารยืนยันว่าผ่านการรับรองจาก กสทช. และยังคงมีสติ๊กเกอร์ Apple สีขาวมาให้ 1 แผ่น พร้อมกับเข็มจิ้มถาดซิมการ์ดมาให้ด้วย และยังคงตามนโยบายลดโลกร้อนของ Apple ที่เริ่มทำมาตั้งแต่ iPhone 12 ทำให้มีแค่สายชาร์จ USB‑C to Lightning มาให้ใช้งาน อะแดปเตอร์และหูฟังต้องทำการซื้อแยกต่างหาก

ส่องดีไซน์

นับตั้งแต่ Apple ได้ทำรุ่น Pro แยกเพิ่มออกมา ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ Apple ได้ทำ iPhone รุ่นหน้าจอใหญ่ที่มีขนาดเท่ากับรุ่น Pro Max โดยมีขนาดหน้าจอที่ 6.7 นิ้ว เพื่อออกมาเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่

ด้านหลังใช้งานดีไซน์แบบกระจกแบบเดียวกันกับ iPhone 14 ซึ่งจะให้ความแวววาวสวยงามพร้อมกับด้านข้างตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศที่มาในดีไซน์แบบด้านโดยเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง

กล้องหลังระบบคู่ ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 12MP: 26 มม., รูรับแสงขนาด ƒ/1.5, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์, ชุดเลนส์ 7 ชิ้น, Focus Pixels 100% และกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP: 13 มม., รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 และมุมมองภาพ 120°, ชุดเลนส์ 5 ชิ้น สามารถ ซูมออกแบบออปติคัล 2 เท่า และซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า โดยมาพร้อมกับแฟลช True Tone

จอภาพ Super Retina XDR ที่ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว กระจก Ceramic Shield ยังคงใช้งานดีไซน์หน้าจอแบบ Notch หรือที่ประเทศไทยมักเรียกกันว่ารอยบาก ซึ่งในปี 2022 นี้ จะมีเพียงรุ่น iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ที่ได้รับ Dynamic Island และ Always On Display เท่านั้น

ชิป A15 Bionic แบบเดียวกันกับที่อยู่ใน iPhone 13 Pro มี CPU แบบ 6‑core ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์, Neural Engine แบบ 16‑core ที่จะเข้ามาช่วยในการประมวลผลการทำงาน, ถ่ายภาพ, บันทึกวิดีโอ และเล่นเกมให้ไหลลื่น และดีไซน์ด้านในที่อัปเดตใหม่ก็ช่วยให้ประสิทธิภาพในการควบคุมความร้อนนั้นดียิ่งขึ้น

ตัวเครื่องสามารถทนนํ้าและทนฝุ่นระดับ IP68 ทนนํ้าได้สูงสุด 6 เมตรภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาทีและสามารถทนต่อของเหลวทั่วไปในชีวิตประจําวันที่หกใส่โดยไม่ได้ตั้งใจอย่างเช่นกาแฟชานํ้าอัดลมและอื่นๆ

ราคาและการวางจำหน่าย iPhone 14 Plus

iPhone 14 Plus มี 5 ให้เลือก ได้แก่ สีมิดไนท์, ม่วง, สตาร์ไลท์, (PRODUCT)RED และฟ้า เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไปที่ Apple Store Central World, Apple Store Iconsiam, apple.com และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ