หลังจากที่เปิดพรีออเดอร์เป็นกลุ่มประเทศแรก และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 กันยายน 2565 นี้ ใครที่เล็งๆ สีใหม่อย่าง สีม่วง Deep Purple ไว้ วันนี้ The All Apps ขอพาทุกท่านมาชมกับแกะกล่อง พรีวิว ตัวเครื่อง iPhone 14 Pro Max สีม่วงเข้มสีใหม่ของปีนี้กันว่าจะสวยงามแค่ไหน และในรุ่นนี้มีสเปกอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปติดตามกันเลย

สเปก iPhone 14 Pro Max
- ขนาดตัวเครื่อง 77.6 x 160.7 x 7.85 มม.
- น้ำหนัก 240 กรัม
- จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2796 x 1290 พิกเซลที่ 460 ppi
- รองรับ Always On Display
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องหลักความละเอียด 48MP รูรับแสงขนาด ƒ/1.78
- กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 มุมมองภาพ 120°
- กล้องเทเลโฟโต้ 2 เท่าความละเอียด 12MP รับแสงขนาด ƒ/1.78
- กล้องหน้าความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/1.9
- สแกนเนอร์ LiDAR
- ชิป A16 Bionic
- ความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
- กันน้ำ กันฝุ่น มาตรฐาน IP68 ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที
- ระบบปฏิบัติการ iOS 16
- แบตเตอรี่ เล่นวิดีโอสูงสุด 29 ชั่วโมง ชาร์จได้สูงสุด 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที10 ด้วยอะแดปเตอร์ขนาด 20 วัตต์ หรือสูงกว่า
- รองรับ MagSafe ชาร์จแบบไร้สายสูงสุด 15 วัตต์
- NFC
แกะกล่อง ส่องอุปกรณ์
กล่องของ iPhone 14 Pro Max ยังคงมาในกล่องสีขาวไม่เหมือนกับกล่องของ iPhone 13 Pro Max ที่เป็นสีดำ และพิมพ์ตัวเครื่องที่เป็นด้านหน้าโชว์การออกแบบหน้าจอแบบใหม่ของรุ่นนี้เอาไว้ ซึ่งภาพพื้นหลังก็จะเป็นการบ่งบอกสีของตัวเครื่องได้อย่างชัดเจน รวมถึงตัวอักษร iPhone และโลโก้ Apple ที่เป็นสีม่วงเพื่อแสดงให้เห็นว่าในกล่องนี้จะเป็นตัวเครื่องสีม่วงสีใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้นั่นเอง
สำหรับเครื่องศูนย์ไทยจะมาพร้อมรายละเอียดตัวเครื่องและอุปกรณ์ที่อยูในชุดจัดจำหน่ายที่เป็นภาษาไทยอยู่ด้านหลังกล่อง พร้อมกับบอกรายละเอียดสีและความจุไว้ด้านล่าง และแน่นอนว่ามาพร้อมกับการซีลกระดาษที่ด้านบนและด้านล่างของตัวกล่องเพื่อช่วยลดการใช้งานพลาสติกลงนั่นเอง
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับตัวเครื่องวางคว่ำหน้าอยู่ โดยจะโชว์สีของตัวเครื่องอย่างสวยงาม สามารถดึงตัวเครื่องออกจากกล่องได้ง่ายด้วยลิ้นกระดาษที่ยื่นออกมา โดยกระดาษนี้จะเป็นแผ่นป้องกันรอยหน้าจอพร้อมกับบอกตำแหน่งของปุ่มและพอร์ตต่างๆ ไปในตัวด้วย
ภายในก็จะพบกับเอกสารต่างๆ ได้แก่ คู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น การรับประกัน และ เอกสารยืนยันว่าผ่านการรับรองจาก กสทช. และยังคงมีสติ๊กเกอร์ Apple สีขาวมาให้ 1 แผ่น พร้อมกับเข็มจิ้มถาดซิมการ์ดมาให้ด้วย และยังคงตามนโยบายลดโลกร้อนของ Apple ที่เริ่มทำมาตั้งแต่ iPhone 12 ทำให้มีแค่สายชาร์จ USB‑C to Lightning มาให้ใช้งาน อะแดปเตอร์และหูฟังต้องทำการซื้อแยกต่างหาก
ดีไซน์ตัวเครื่อง
ดีไซน์ตัวเครื่องภายในของ iPhone 14 Pro Max ยังถือว่าไม่มีการเปลี่ยนปลงอะไรมากนัก โดยมาพร้อมกับขอบตัวเครื่องเรียบแบน ใช้สแตนเลสสีลมันวาวให้ความหรูหรา โดยตัดกับฝาหลังที่เป็นวัสดุผิวด้าน ให้สัมผัสที่เรียบเนียน
กล้องหลังยังให้มาใช้งานถึง 3 เลนส์ แต่มีการอัปเกรดกล้องหลักให้มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.78 พร้อมกับใช้งานกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/1.78 และกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 มุมมองภาพ 120°
หน้าจอยังคงเป็นจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว กระจก Ceramic Shield ความละเอียด 2796 x 1290 พิกเซลที่ 460 ppi เทคโนโลยี ProMotion ที่มีอัตรารีเฟรชแบบปรับได้สูงสุดที่ 120Hz พร้อมกับฟีเจอร์ Always On Display หน้าจอจะติดตลอดแล้ว
และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนหน้าก็คือ Dynamic Island ที่เข้ามาแทนรอยบากหรือ Notch แบบเดิม พร้อมกับฝังกล้องหน้าความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/1.9 ไว้ร่วมกัน ซึ่ง Dynamic Island จะมาในรูปแบบ Pill หรือแคปซูลยา จะรองรับการใช้งานกับแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อรวมการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ เอาไว้ในที่เดียว ซึ่งสามารถแตะค้างไว้เพื่อให้แสดงผลสำหรับการตอบโต้ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้นและทํางานมัลติทาสก์ได้ดียิ่งขึ้น
ชิปประมวลผลมีการอัปเกรดมาเป็น A16 Bionic กระบวนการผลิตแบบ 4 นาโนเมตร ประกอบด้วย CPU แบบ 6‑core ซึ่งมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ GPU แบบ 5‑core Neural Engine แบบ 16‑core ที่จะช่วยให้การประมวลผลทำได้รวดเร็วขึ้นและยังประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย พร้อมรันระบบปฏิบัติการ iOS 16 ที่มีลูกเล่นใหม่ๆ เพียบ
iPhone 14 Pro Max สามารถทนนํ้าและทนฝุ่นระดับ IP68 ทนนํ้าได้สูงสุด 6 เมตรภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาทีและสามารถทนต่อของเหลวทั่วไปในชีวิตประจําวันที่หกใส่โดยไม่ได้ตั้งใจอย่างเช่นกาแฟชานํ้าอัดลมและอื่นๆ
สำหรับสีม่วงเข้ม Deep Purple นี้ จะมีลักษณะสีม่วงที่ไม่ได้ออกม่วงจนเกินไป มีความเข้มขรึม ซึ่งหากอยู่ในที่แสงไม่ตกกระทบ ก็จะทำให้ตัวเครื่องออกไปทางสีเทาแทน แต่เมื่อมีแสงมาตกกระทบก็จะทำให้สีม่วงโดดเด่นขึ้นมา สวยงามเลยทีเดียว ส่วนด้านการใช้งาน รอติดตามรีวิวได้ในเร็วๆ นี้
ราคาและการวางจำหน่าย iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max
iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max มีทั้งหมด 4 สีให้เลือก ได้แก่ ดำสเปซแบล็ค, เงิน, ทอง, ม่วงเข้ม เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 เป็นต้นไป โดยมีราคาดังนี้
ราคา iPhone 14 Pro
- 128GB ราคา 41,900 บาท
- 256GB ราคา 45,900 บาท
- 512GB ราคา 54,900 บาท
- 1TB ราคา 63,900 บาท
ราคา iPhone 14 Pro Max
- 128GB ราคา 44,900 บาท
- 256GB ราคา 48,900 บาท
- 512GB ราคา 57,900 บาท
- 1TB ราคา 66,900 บาท